โลก (Earth)
คาบโคจรดาราคติ
: 365.26
รัศมีวงโคจรใกล้สุด
: 0.98 หน่วยดาราศาสตร์
รัศมีวงโคจรไกลสุด
: 1.02 หน่วยดาราศาสตร์
มุมเอียงวงโคจร
: 0.0o
เส้นผ่านศูนย์กลางแนวศูนย์สูตร
: 12,756 กิโลเมตร
ความแป้น : 0.003
มวล : 9.9742
x 1024 กิโลกรัม
ความถ่วงจำเพาะ
: 5.5
อัลบีโด : 0.37
แกนเอียง : 23.45o
คาบการหมุน
: 23 ชั่วโมง
56.1 นาที
|
ดวงจันทร์บริวาร :
ชื่อ
|
ปีที่ค้นพบ
(ค.ศ.) |
เส้นผ่านศูนย์กลาง
(กม.) |
รัศมีวงโคจร
(พันกิโลเมตร) |
ความรี
|
คาบ
(วัน) |
แกนเอียง
(องศา) |
ดวงจันทร์
|
-
|
3,479
|
384.4
|
0.055
|
27.32
|
23.4
|
โลก เป็นชื่อของเทพเจ้าแห่งโลก ชื่อ "จีอา" (Gaea) เป็นดาวเคราะห์ที่มนุษย์เราอาศัยอยู่ มีพื้นผิวที่ปกคลุมด้วยน้ำ กว่า 70% มีชั้นบรรยากาศ และอุณหภูมิที่เหมาะสม ที่ทำให้สิ่งมีชีวิตเช่นเรา อาศัยอยู่ได้ และเนื่องจาก เรายังไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกโลก และมนุษย์เรา ยังไม่เคยอาศัยดาวดวงอื่นนอกโลก นักวิทยาศาสตร์ จึงพยายามศึกษาโลก เพื่อเป็นแบบอย่าง ในการศึกษาดาวเคราะห์ต่อไป
ข้อมูลจำเพาะของเรื่อง
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์
|
โดยเฉลี่ย
149.5979
ล้านกิโลเมตร(1 a.u.)
ใกล้สุด 147 ล้านกิโลเมตร (0.9833 a.u.) ไกลสุด 152 ล้านกิโลเมตร (1.0167 a.u.) |
Eccentricity
|
0.01671
|
คาบการหมุนรอบตัวเอง
|
23ชั่วโมง56นาที 04วินาที
|
คาบการหมุนรอบดวงอาทิตย์
|
365.256 วัน ด้วยความเร็ว 29.79 กิโลเมตรต่อวินาที
|
ระนาบโคจร
(Inclination)
|
0 องศา
|
แกนเอียงกับระนานโคจร
|
23:50 องศา
|
มวล
|
5.976x1024 กรัม
|
เส้นผ่านศูนย์กลาง
|
12,756 กิโลเมตร ที่เส้นศูนย์สูตร
|
แรงโน้มถ่วง
|
--
|
ความเร็วหลุดพ้น
|
11.18 กิโลเมตรต่อวินาที
|
ความหน่าแน่น
|
1 ต่อ 5.517เมื่อเทียบกับน้ำ
|
ส่วนโลกที่ได้รับแสงแดดจะเป็น เวลากลางวัน และส่วนที่มืดจะเป็น เวลากลางคืน ช่วงความยาวของกลางวัน และกลางคืนจะไม่เท่ากันตลอดทั้งปี เพราะแกนของโลกเอียง เมื่อขั้วโลกเหนือหันหาเข้าดวงอาทิตย์ในราวเดือนมิถุนายน จะทำให้กลางวันยาวกว่ากลางคืน แต่ในเดือนธันวาคมขั้วโลกเหนือ หันออกจากดวงอาทิตย์จะทำให้ กลางวันสั้นกว่า กลางคืน ส่วนในเดือนมีนาคมและกันยายนโลกหันเข้าหาดวงอาทิตย์ จะทำให้กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์เป็นวงโคจรซึ่งใช้เวลา 365 1/4 วัน เพื่อให้ครบ 1 รอบ ปฏิทินแต่ละปีมี 365 วัน ซึ่งหมายความว่าจะมี 1/4 ของวันที่เหลือในแต่ละปี ซึ่งทุกๆปีสี่ปีจะมีวันพิเศษ คือจะมี 366 วัน กล่าวคือเดือนกุมภาพันธ์จะมี 29 วัน แทนที่จะมี 28 วันเหมือนปกติ ตามที่เคปเลอร์ค้นพบวงโคจรของโลกไม่เป็นวงกลม ในเดือนธันวาคมมันจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าเดือนมิถุนายน ซึ่งมันจะอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์มากที่สุด โลกจะเอียงไปตามเส้นแกน ในเดือนมิถุนายน ซีกโลกเหนือจะเอียงไปทางดวงอาทิตย์ดังนั้น ซีกโลกเหนือจะเป็นฤดูร้อนและซีกโลกใต้จะเป็นฤดูหนาว ในเดือนธันวาคมจะเอียงจากดวงอาทิตย์ ทำให้ซีกโลกเหนือเป็นฤดูหนาวและซีกโลกใต้เป็นฤดูร้อน ในเดือนมีนาคมและกันยายน ซีกโลกทั้งสองไม่เอียงไปยังดวงอาทิตย์ กลางวันและกลางคืนจึงมีความยาวเท่ากัน ในเดือนมีนาคม ซีกโลกเหนือจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ และซีกโลกใต้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ในเดือนกันยายน สถานการณ์จะกลับกัน
ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ จะมีฤดูกาลเป็นของตนเองและระยะของการโคจร ความยาวของปีดาวเคราะห์เป็นเวลาที่มันหมุนรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ ถ้าคุณอยู่บนดาวพุธ ปีของคุณจะมีเพียง 88 วันของโลก บนดาวพูลโต ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่นอกสุดหนึ่งปีจะเท่ากับ 248 วันบนโลก
ข้อมูลเกี่ยวกับโลก
โลกมีอายุประมาณ 4,700 ปีโลกไม่ได้มีรูปร่างกลมโดยสิ้นเชิง เส้นรอบวงที่เส้นศูนย์สูตรยาว 40,077 กิโลเมตร (24,903 ไมล์)และที่ขั่วโลกยาว 40,009 กิโลเมตร (24,861 ไมล์)
โครงสร้างภายในเปลือกโลก
มีบริวาร 1 ดวงคือ ดวงจันทร์ (Moon)
การโคจรรอบดวงอาทิตย์ของโลกในลักษณะที่แกนเอียง ทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆขึ้นบนโลก ซึ่งสามารถสังเกตได้ โดยพิจารณา ณ ตำแหน่งใด ตำแหน่งหนึ่งบนโลก จะพบว่าพลังงานความร้อน ที่ซีกโลกเหนือได้รับจากดวงอาทิตย์ จะไม่เท่ากันตลอดปี ดังนั้นจึงทำให้เกิดฤดูกาลต่าง ๆ เช่นในเดือนมิถุนายน ขั้วโลกเหนือจะหันเข้าหาดวงอาทิตย์ ซีกโลกเหนือจะได้รับความร้อนมากกว่าเดือนอื่นๆ และจะเป็น ฤดูร้อน ตรงข้ามกับเดือนธันวาคม ซึ่งขั้วโลกเหนือหันออก จากดวงอาทิตย์ แสงอาทิตย์ที่ตกลงมาบนโลกจะเฉมาก ซึ่งจะไม่ร้อนมากเหมือนที่แสงตกลงมาตรงๆ ดังนั้นในช่วงนี้ จะเป็น ฤดูหนาว ส่วนในเดือนกันยายนและมีนาคม โลกหันด้านข้างเข้าหาดวงอาทิตย์จะไม่ร้อนหรือหนาว เหมือน เดือนมิถุนายนหรือธันวาคม ในช่วงเดือนกันยายนจึงเป็น ฤดูใบไม้ร่วง และเดือนมีนาคมโลกอบอุ่นขึ้น จึงเป็น ฤดูใบไม้ผลิ
สำหรับประเทศ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศ ใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลก ปกติจะเป็นเขตร้อนแต่เนื่องจาก ลมมรสุม พัดผ่าน เป็นประจำฤดูกาล จึงเปลี่ยนไปจากบริเวณอื่น ๆ ของโลก กล่าวคือ จะไม่มีฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบไม้ผลิ แต่จะมีฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูร้อน โดยจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณดังนี้
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม
ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์