วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ดาวอังคาร (Mars)

ดาวอังคาร (Mars)

คาบโคจรดาราคติ : 686.98
รัศมีวงโคจรใกล้สุด : 1.38 หน่วยดาราศาสตร์
รัศมีวงโคจรไกลสุด : 1.67 หน่วยดาราศาสตร์
มุมเอียงวงโคจร : 1.9o
เส้นผ่านศูนย์กลางแนวศูนย์สูตร : 6,795 กิโลเมตร
ความแป้น : 0.005
มวล : 0.11 เท่าของโลก
ความถ่วงจำเพาะ : 3.9
อัลบีโด : 0.15
แกนเอียง : 25.19o
คาบการหมุน : 1 วัน 0 ชั่วโมง 37.4 นาที
ดวงจันทร์บริวาร :
ชื่อ
ปีที่ค้นพบ
(ค.ศ.)
เส้นผ่านศูนย์กลาง
(กม.)
รัศมีวงโคจร
(พันกิโลเมตร)
ความรี
คาบ
(วัน)
แกนเอียง
(องศา)
Phobos187727 x 22 x 199.380.0150.321.0
Deimos187715 x 12 x 1123.460.0011.261.8

ดาวอังคารเป็นชื่อของเทพเจ้า แห่งสงคราม และการเกษตร มักรู้จักกัน ในนามของ "ดาวแดง" (The Red Planets) ซึ่งมักจะมี นิยายวิทยาศาสตร์มากมาย ที่กล่าวถึงดาวดวงนี้ โดยเฉพาะ เมื่อกล่าวถึง สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ บนดาวอังคาร
     ดาวอังคาร ดาวเคราะห์อันดับที่ 4 ในระบบสุริยะ เมื่อมองด้วยกล้องโทรทรรศน์จะเห็นเป็นดวงสีแดง ชาวกรีกและโรมันจะยกให้เป็นเทพแห่งสงคราม ดาวอังคารมีลักษณะหลายอย่างคล้ายโลกมากคือ 1 วันบนดาวอังคารมี 24 ชั่วโมงใกล้เคียงกัน มีแกนเอียงทำมุม 24 องศาใกล้เคียงกับโลก ทำให้มีฤดูกาล 4 ฤดูคล้ายกัน แต่ 1 ปีของ ดาวอังคาร ยาวนานกว่าโลกเกือบสองเท่า จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์ สนใจดาวอังคารเป็นพิเศษ และเชื่อว่าต้องมี สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่

ข้อมูลจำเพาะของดาวอังคาร



ระยะห่างจากดวงอาทิตย์โดยเฉลี่ย 227.94 ล้านกิโลเมตร(1.524 a.u.)
ใกล้สุด 206.7 ล้านกิโลเมตร (1.381 a.u.)
ไกลสุด 249.1 ล้านกิโลเมตร (1.666 a.u.)
Eccentricity0.093
คาบการหมุนรอบตัวเอง24 ชั่วโมง 37 นาที 22.6 วินาที
คาบการหมุนรอบดวงอาทิตย์686.980 วันบนโลก ด้วยความเร็ว 24.10 กิโลเมตรต่อวินาที
ระนาบโคจร (Inclination)1:50:59 องศา
แกนเอียงกับระนาบโคจร23:59 องศา
มวล6.421x1026 กรัม หรือ 0.107 เท่าของโลก
เส้นผ่านศูนย์กลาง6,794 กิโลเมตร (โลก 12,756 กิโลเมตร ที่เส้นศูนย์สูตร)
แรงโน้มถ่วง0.380 เท่าของโลก
ความเร็วหลุดพ้น5.03 กิโลเมตรต่อวินาที
ความหนาแน่น1 ต่อ 3.94 เมื่อเทียบกับน้ำ
ความสว่างสูงสุด-2.8
---------------------------------------------------------------------------------------------

                                                     โครงสร้างของดาวอังคาร

 เปลือกชั้นนอกของดาวอังคารเป็นชั้นของหิน มีสีแดงเพราะเป็นออกไซด์ของเหล็ก (สนิมเหล็ก) พื้นผิวเป็นที่ราบส่วนใหญ่ มีก้อนหินเล็กกระจัดกระจ่ายไปทั่ว ชั้นกลางจะเป็นชั้นของหินซิลิเกต แกนกลางเป็นโลหะแข็ง


ภูเขาไฟโอลิมปัส (Olympus) เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในระบบสุริยะ มีความสูง 25 กิโลเมตรสูงเป็น สามเท่าของ ยอดเขาเอเวอร์เรสบนโลก รอบฐานกว้าง 600 กิโลเมตร












ร่องรอยบนที่ราบของดาวอังคารลักษณะคล้ายกับว่าเคยมีน้ำในอดีต


ที่ขั้วเหนือและใต้ของดาวอังคารจะปรากฏเป็นขั้วน้ำแข็งของคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะขยายตัวมากขึ้นเมื่อดาวอังคารหันขั้นนั้นออกจากดวงอาทิตย์
ปริศนารูปหน้าคนที่ยานอวกาศไวกิ้งถ่ายภาพไว้ได้


หุบเหวมาริเนอร์ เป็นหุบเหวขนาดใหญ่กว้างขนาดเท่ากับความกว้างของทวีปอเมริกาเหนือ กว้างราว 4,700 กิโลเมตร ลึก 2-7 กิโลเมตร เป็นหุบเหวเหยียดยาวผ่ากลางดาวอังคารบริเวณ เส้นศูนย์สูตร
  บรรยากาศบนดาวอังคาร มีบรรยากาศที่เบาบางมากใช้หายใจไม่ได้ ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ 95% ไนโตรเจน 2.7% อาร์กอน 1.6% ออกซิเจนและไอน้ำ 0.7% บรรยากาศของดาวอังคารแปรปรวนมากกระแสลมแรง และทำให้เกิดฝุ่นคลุ้งไปทั่วทั้งดาวอังคารนานหลายเดือน ซึ่งบางครั้งสามารถมองเห็นเป็นแถบมืดครอบคลุม ดาวอังคารได้จากโลก
     อุณหภูมิของดาวอังคาร อยู่ระหว่าง +25 องศาเซลเซียสในเวลากลางวัน ถึง -120 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน
     บริวารของดาวอังคาร มีอยู่ 2 ดวงเป็นดาวขนาดเล็ก นักวิทยาศาสตร์คิดว่าคงเป็นสะเก็ดดาวเคราะห์น้อย ที่ถูกสนามแรงโน้มถ่วงของดาวอังคารจับไว้

ยานอวกาศที่ไปสำรวจดาวอังคาร มีหลายลำคือ 
     1. มาริเนอร์ 4
     2. มาริเนอร์ 9
     3. มาร์ส 3
     4. ไวกิ้ง 1 และ 2
     5. มาร์สพาทไฟเดอร์


หมายเหตุ: 
Eccentricity เป็นค่าคงทีของวงโคจร ที่บอกว่าวงโคจรนั้นรีมากหรือน้อย หาได้จากระยะห่างของจุด โฟกัสทั้งสอง หารด้วย ความยาวของแกนหลัก ซึ่งวงกลมจะมีค่า Ecc=0 และพาลาโบล่าจะมีค่า Ecc=1 Inclination มุมเอียงที่ระนาบการโคจรของดาวเคราะห์หรือดาวหาง ทำกับระนานอิคลิปติค มีหน่วยเป็น องศา
----------------------------------------------------------------------------------------------

                                                             บริวารของดาวอังคาร

ดาวบริวารของดาวอังคาร 2 ดวงคือ โฟบอส กับ ดีมอส
----------------------------------------------------------------------------------------------

                                                        Phobos (โฟบอส)




โฟบอสเป็นบริวารดวงใหญ่สุดของดาวอังคาร โคจรอยู่วงในสุด ห่างจากจุดศูนย์กลางของดาวอังคาร 9,378 กิโลเมตร หรือ เพียง 6,000 กิโลเมตรจากผิวดาวอังคาร นับเป็นบริวารที่มีวงโคจรใกล้ดาวแม่มากที่สุด ในระบบสุริยะ มีมวล 10.80 ล้านล้านตัน ขนาดโดยเฉลี่ย 22.20 กิโลเมตร (27 x 21.6 x 18.8 กิโลเมตร)
นิยายกรีกเล่าว่า โฟบอสเป็นลูกชายของ เอรี่ (เทพมาร์ส) กับ อโพลไดท์ (เทพวีนัส) และเป็นที่ยำเกรงของ ชาวกรีก
โฟบอสถูกค้นพบเมื่อปีค.ศ. 1877 หรือ ปีพ.ศ. 2420 โดยนักดาราศาสตร์ชาวอเมริกาชื่อ
Asaph Hall แล้วต่อจากนั้นก็ถูกถ่ายภาพโดยยาน มาริเนอร์ 9ของสหรัฐ ในปีค.ศ.1971 และจากยานไวกิ้ง 1ของสหรัฐ กับยานโฟบอสของรัสเซีย ในปีค.ศ. 1977 และ ปี ค.ศ.1988 ตามลำดับ

     วงโคจรของโฟบอสอยู่ใกล้ผิวดาวอังคารมาก ทำให้มันขึ้นจากทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกเร็วมาก โดยปกติวันละ 2 ครั้ง หรือมีคาบการโคจร 1 รอบกินเวลา 7 ชั่วโมง 39 นาที และเนื่องจากโฟบอสอยู่ ใกล้ผิวดาวอังคารมาก ต่ำกว่าค่าสมดุลของวงโคจร ทำให้วงโคจรของโฟบอสจะลดต่ำลงเรื่อยๆ เนื่องจากแรงดึงดูดของดาวอังคาร โดยเฉลี่ยศตวรรษละ 1.80 เมตร นั่นหมายความว่า อีก 50 ล้านปีข้างหน้า โฟบอสจะกระแทกผิวดาวอังคาร
ส่วนประกอบของโฟบอส ส่วนใหญ่เป็นคาร์บอนและหินแข็ง เหมือนกับดาวเคราะห์น้อย
Type C แต่โฟบอสมีความหนาแน่นกว่า ภาพถ่ายจากยาน Mars Global Surveyor แสดงให้เห็นว่า ผิวของโฟบอสปกคลุมด้วยชั้นบางๆของฝุ่น หนาประมาณ 1 เมตร และยานโฟบอส2 ของโซเวียตก็ตรวจพบ ชั้นบางๆของก๊าซ แต่ก็โชคร้ายขาดการติดต่อไปก่อนที่จะวัดส่วนประกอบมาได้
โฟบอสมีหลุมขนาดใหญ่ ชื่อว่า
Stickney ได้ชื่อมาจากสาวใช้ของภรรยาของเฮลล์ ลักษณะคล้ายหลุมเฮอร์เชล ของมิมัส ดาวบริวารของดาวเสาร์ และการเกิดหลุม Stickney นี้เช่นกันที่การชนกันเกือบทำให้โฟบอส แหลกเป็นผงไปแล้ว
 -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                                                     Deimos (ดีมอส)


ดีมอส ดาวบริวารขนาดเล็กวงนอกของดาวอังคาร และดาวบริวารที่เล็กที่สุดในระบบสุริยะ มีมวล 1.80 ล้านล้านตัน ขนาดเฉลี่ย 12.60 กิโลเมตร (15 x 12.2 x 11 กิโลเมตร) มีวงโคจรห่างจากจุดศูนย์กลางของดาวอังคาร 23,459 กิโลเมตร มีคาบการโคจรรอบดาวอังคาร 1 รอบกินเวลา 30 ชั่วโมง 18 นาที
นิกายกรีกเล่าว่า Deimos เป็นพี่น้องของ Phobos ลูกของเอรี่ และ อโพลไดท์ เป็นตัวแทนของความ ตกใจกลัวและเสียขวัญ
ค้นพบโดย เฮอล์ ในปีค.ศ. 1877 เช่นเดียวกับโฟบอส
     ทั้งโฟบอส และดีมอส เชื่อกันว่าเกิดจากดาวเคราะห์น้อย ซึ่งถูกแรงดึงดูดของดาวพฤหัสรบกวน และ ถูกเหวี่ยงมาหาดาวอังคารจับเอาไว้ บ้างก็เชื่อว่าน่าจะมีแหล่งกำเนิดมาจากดาวเคราะห์น้อยชั้นนอกมากกว่า และในอนาคต โฟบอสและดีมอส อาจจะมีประโยชน์ใช้เป็นสถานีอวกาศ เพื่อศึกษาดาวอังคารก็ได้

--------------------------------------------------------------------------------------------

                         หุบเหวมาริเนอร์ (Mariner Valley)


หุบเหวมาริเนอร์ แกรนแคนย่อนบนดาวอังคารที่เหยียดยาว 2,800 ไมล์หรือ 4,500 กิโลเมตร กว้าง 200 กิโลเมตร ลึก 7 กิโลเมตร อยู่บนที่ราบ Tharsis ใต้เส้นศูนย์สูตร แม้จะไม่ใช่หุบเหวที่ลึกที่สุดในระบบสุริยะแต่มีขนาดกว้างยาวที่สุด ซึ่งกว้างราว 1 ใน 3 ของเส้นรอบวงรอบดาวอังคารที่เส้นศูนย์สูตรเลย 
หุบเหวมาริเนอร์ได้ชื่อมาจากยานสำรวจ Mariner 4 ซึ่งไปสำรวจดาวอังคารครั้งแรก เมื่อปี คศ.1965 ภาพนี้ถ่ายไว้โดยยาน Mariner 4 ที่ระดับความสูง 6,000 ไมล์ 

------------------------------------------------------------------------------------------










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น